10. Joox ♥

JOOX

เริ่มต้นแอพฯ จะให้เราสมัครสมาชิกและล็อคอินเพื่อเข้าใช้งาน หน้าแรกจะพบกับเมนูเด่นมากมาย ทั้ง JOOX Top Chart (เพลงติดชาร์ต) / New Release (เพลงใหม่ล่าสุด) / Best of (รวมฮิตเพลงดัง) / Theme Playlist (ธีมเด่นธีมดังในช่วงนั้นๆ) พวกคลิปอย่าง Music Video หรือคลิป Exclusive ที่มีนักร้องมาร้องให้ฟังกันแบบสดๆ เป็นข้อแนะนำก่อนเริ่มใช้จริงจัง ควรจะเข้าไปตั้งค่าการใช้แอพฯ  JOOX ซะก่อน เลือกที่ My Music -> Settings ในนี้มีให้ตั้งค่าหลายอย่าง แต่จุดเน้นๆ ที่อยากจะให้ตั้งก่อนใช้คือเมนู “General” ไว้จะเลือกคุณภาพเสียงเพลง (Quality) ทั้งแบบออนไลน์/ออฟไลน์ หรือเปิด-ปิดให้ดาวน์โหลดเฉพาะ Wi-Fi ได้ นอกจากนี้จะมีให้เลือก Theme Gallery (ปรับธีมแอพฯ ตามใจ), Language (ภาษา), Timer (ตั้งเวลาเปิด-ปิด)นอกจากเมนูต่างๆ ที่มีให้เลือกเยอะแล้ว ยังมี “Playlists” ที่ช่วยในการหาเพลงโดยจะแบ่งเป็นหมวดต่างๆ เช่น ฟังเพลงไทย/สากล/เอเชี่ยน อยากฟังแนวไหน โหมดอะไร หรือแบ่งค่าย ก็รวมไว้ในนี้หมด หรือถ้าผู้ใช้อยากจะสร้าง Playlists ส่วนตัวไว้ใส่เพลงโปรดก็ทำได้นะ โดยไปที่  My Music -> My Playlists -> New Playlistจุดเด่นที่ทำให้คนชอบ JOOX มากคือ สามารถฟังทั้งแบบออนไลน์และดาวน์โหลดเก็บไว้ฟังบนเครื่องแบบออฟไลน์ได้ จะเลือกโหลดเป็นรายเพลงหรือทั้งอัลบั้มก็ได้หมด สำหรับเลือกรายเพลง ให้แตะที่ปุ่ม (…) ด้านหลัง แล้วเลือก “Download” แตะเลือกเข้า Playlists ที่ต้องการ หรือถ้าแบบทั้งอัลบั้มกดจากปุ่มดาวน์โหลดที่อยู่ด้านบนได้เลยเมื่อกดเล่นเพลงปุ๊ป ตัว Player ของ JOOX  จะมีเนื้อเพลงโชว์ให้เกือบทุกเพลง ร้องไม่ได้ เปิดเพลงปุ๊ปร้องตามได้ทันที ข้อดีอีกอย่างคือ ถึงจะสลับไปใช้แอพฯ อื่นๆ เพลงจากแอพฯ ก็ยังคงเล่นอยู่ ไม่มีดับ แถมยังรองรับ Player บนของเครื่องด้วย ชอบเพลงไหนก็กดแชร์ออกไปให้เพื่อน Facebook ได้สำหรับแอพฯ  JOOX จะคิดค่าบริการเป็นทั้งแบบ 1 เดือน / 3 เดือน / 6 เดือน / 12 เดือน ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3.99$ หรือคิดเป็นเงินไทยเฉลี่ยเดือนละ 120 บาท แต่ถ้ายังไม่พร้อมจ่ายราคานี้ JOOX ก็ไม่ได้ใจร้ายจนเกินไป ยังมีหมวด “Radio” หรือวิทยุออนไลน์ให้ใช้งานกันฟรีๆ จะเลือกฟังแบบสุ่ม หรือแบ่งเป็นหมวดเป็นธีมก็มี เพลงที่เลือกมาให้ฟังก็เพราะทั้งนั้น

9. True Money Wallet ♥

TrueMoney Wallet

1 : ดาวน์โหลดและสมัครสมาชิก

เริ่มแรกให้ดาวน์โหลดแอปฯ มาติดตั้งในเครื่องก่อน เมื่อเข้าแอปฯ ครั้งแรก ระบบจะให้เราสมัครสมาชิก กรอกข้อมูลส่วนตัว แล้วกดยืนยันเท่านั้นเอง แนะนำให้ตั้งรหัส PIN 4 หลักไว้ด้วย เพื่อความรวดเร็วในการใช้งานครั้งต่อไป

2 : เติมเงินเข้า TrueMoney Wallet

ขั้นตอนถัดมาคือเราต้องเติมเงินเข้า TrueMoney Wallet ก่อนเพื่อที่จะได้มีตังไปกดซื้อแอปฯ นั่นเอง ซึ่งช่องทางการเติมเงินมีดังนี้

• เติมเงินผ่านตู้เติมเงิน : เติมเงินได้ที่ ตู้ทรูมันนี่, ตู้บุญเติม, ตู้ BB Topup และ ตู้ Easy Topup (ฟรี! ค่าธรรมเนียม)
• เติมเงินผ่านช่องทางธนาคาร : ผูกบัญชีธนาคาร, ATM, Internet Banking (อันนี้ผมแนะนำครับ ใช้อยู่ สะดวกดี)
• เติมเงินผ่านร้านค้า : 7-11, Family Mart, CP Fresh Mart, AirPay Counter, Tops, TrueShop, จุดรับชำระทรูมันนี่ (ฟรี! ค่าธรรมเนียม)
• เติมเงินด้วยบัตรเงินสดทรูมันนี่ : ซื้อบัตรเงินสดทรูมันนี่จากร้านสะดวกซื้อมาเติมในแอปฯ

3 : สร้างบัญชี Apple ID กับ TrueMoney Wallet

สร้างบัญชี Apple ID กับ TrueMoney Wallet โดยการเข้าไปที่ App Store แล้วเข้าไปที่จัดการบัญชีส่วนตัว > Payment Information เลือกการเติมเงินจาก TrueMoney Wallet ใส่ข้อมูลอีเมลและหมายเลขโทรศัพท์ที่เราใช้สมัคร TrueMoney Wallet จากนั้นเราจะได้รับ SMS หมายเลข OTP สำหรับยืนยันการผูกบัญชี จากนั้นกด Verify เพื่อยืนยัน เป็นอันเรียบร้อย หลังจากนี้ถ้าเราซื้อแอปฯ หรือทำธุรกรรมใดๆ ผ่าน Apple ID เงินจะถูกหักจาก TrueMoney Wallet 

4 : กดซื้อ Application

เข้าไปที่ App Store เลือกแอปฯ ที่ต้องการซื้อ จากนั้นก็กดซื้อแล้วใส่รหัส Apple ID หลังจากซื้อแอปฯ เรียบร้อยแล้ว เราจะได้ SMS ยืนยันการทำธุรกรรมยังสามารถซื้อของในเกมผ่าน Apple ID ได้ด้วยเช่นกัน

8. WeSing ♥

Wesing

1. เนื้อเพลงมากมายให้คุณเลือกสรร

ไลบรารี่เพลงฮิตขนาดใหญ่ในระดับเสียงคุณภาพสูง ที่ให้คุณได้ร้อง บันทึก และแชร์ผลงาน โดยเพลงฮิตจะถูกอัปเดตอย่างรวดเร็ว สามารถค้นหาเพลงได้ง่ายๆ โหลดได้ที่ความเร็วสูงเพื่อให้คุณร้องคาราโอเกะผ่านทางมือถือ พร้อมระบบให้คะแนนและบันทึกการร้องคาราโอเกะของตนเอง

2. DIY MV

สร้างสรรค์ผลงาน MV ของคุณเองจากสไลด์โชว์คาราโอเกะของคุณได้ด้วย ฟิลเตอร์วิดีโอ ที่มีให้เลือกหลายรูปแบบ เพื่อให้ผลงานบันทึกของคุณเป็นมืออาชีพมากขึ้น

3. เมนูปรับจูนประสิทธิภาพสูง

แค่เลื่อนนิ้วก็สามารถปรับแต่งเสียงของคุณได้ตามใจต้องการ ผ่านเอฟเฟกต์ที่มีให้เลือกมากมาย

4. ร้องเพลงกับคนดัง

WeSing สามารถให้คุณร้องเพลงคู่กับคนดังได้ โดยคุณสามารถร้องเพลงกับคนดังหรือเพื่อนของคุณไปพร้อม ๆ กัน ไม่ว่าจะอยู่ห่างกันแค่ไหนก็ตาม

5. การส่งข้อความ

เสียงคือสิ่งที่เชื่อมโยงเราทุกคน และข้อความทำให้เราทราบข่าวสารเพิ่มเติมระหว่างกันและกัน คุณสามารถพูดคุยแบบส่วนตัวแบบอิสระกับคนอื่นๆ ใน WeSing ได้

6. อัลบั้ม

จัดทำอัลบั้มเพลงของคุณเอง จาก WeSing ทุกคนก็สามารถเป็นดาวเด่นได้

7. ของขวัญ

อยากจะสนับสนุนเพลงเพราะๆ ใช่หรือไม่? ใน WeSing คุณสามารถส่งของขวัญให้แก่นักร้องหรือคุณสามารถดูได้ว่าใครที่ส่งของขวัญให้กับคุณ หาโอกาสในการพบปะกับบุคคลเหล่านี้

8. เล่นซ้ำ

นี่เป็นฟังก์ชั่นเพื่อให้คุณสามารถเล่นซ้ำ เทคโนโลยีปรับแต่งเสียงที่ทันสมัยจะบันทึกเสียงของคุณให้มีคุณภาพดีที่สุดขณะที่คุณร้องเพลงคาราโอเกะเพลงโปรดของคุณ

9. โหมดออฟไลน์

คุณสามารถดาวน์โหลดเพลงมาเก็บไว้ เพื่อนำมาฝึกร้องในขณะที่ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลา

10. อื่น ๆ

   ระบบค้นหาอัจฉริยะ ที่ช่วยให้คุณค้นหาเพลงโปรดทั้งหมดของคุณได้ง่ายขึ้น

   เพิ่มเอฟเฟกต์ไปยังผลงานบันทึกของคุณ เช่น เสียงสะท้อน เสียงก้อง เป็นต้น

7. Lazada ♥

ก่อนใช้ LAZADA 

สมัครสมาชิกของทาง LAZADA เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจเช็คข้อมูลการสั่งซื้อและติดตามสินค้าในภายหลัง โดยเข้าหน้าสมัครสมาชิกสำหรับคนที่ยังไม่เคยสมัคร ซึ่งเราสามารถสมัครผ่านไอดี Facebook หรือ Google+ สิ่งสำคัญที่ต้องใส่นั้นคือ “ข้อมูลที่อยู่” ใส่รายละเอียดที่เราต้องการกรอกลงไปเท่าที่เราต้องการรวมทั้งในเมนูอื่นๆ ของหน้าจัดการบัญชีของเรา ส่วนในเรื่อง “ช่องทางการชำระเงิน” อันนี้ไม่จำเป็นที่เราต้องไปหาบัตรเครดิตมาใส่ เพราะมีบริการเก็บเงินปลายทางและช่องทางการจ่ายสินค้าในรูปแบบอื่นๆ อีกมาก เราไม่จำเป็นต้องใส่ใจในเรื่องการจ่ายตังค์ในตอนนี้เป็นอันดับแรกๆ

ตรวจสอบก่อนการซื้อสินค้า

ก่อนจะซื้อสินค้า ควรสังเกตโปรโมชั่น, คูปองส่วนลด, และสิทธิพิเศษทั้งหลายแหล่งในหน้าเว็บให้ดีก่อนเพราะจุดนี้ที่ทำให้การช็อปปิ้งผ่านออนไลน์เติบโตได้ไวมากขนาดนี้ “มันถูก” นั่นเอง

คูปองส่วนลดจะมีข้อแม้ระบุไว้ให้เห็นเด่นชัด อ่านข้อแม้ให้ดี “ต้องซื้อสินค้าราคาเท่าไหร่ ลดได้สูงสุดเท่าไหร่” อยากใช้อันไหนที่มันตรงกับสิ่งที่เราสนใจ  (ต้องเลือก เพราะส่วนมากมีให้เลือกใช้มากกว่าหนึ่งเสมอ)

ดูรายละเอียดสินค้า

รายละเอียดสินค้าในร้านค้าออนไลน์นั้น สิ่งสำคัญนอกจากเรื่องราคาและของแถมแล้ว สิ่งที่ควรสนใจคือ

• การรับประกัน
• จำหน่ายโดยใคร
• ช่องทางการชำระเงิน

สังเกตการรับประกัน

สังเกตความน่าเชื่อถือของผู้จำหน่าย

สังเกตช่องทางการชำระเงิน

วิธีการสั่งซื้อสินค้า

เมื่อเราเริ่มเลือกหาสินค้าที่ตรงใจ ก็สามารถกดสั่งซื้อได้จากสองทางเลือก

1.       กดซื้อแบบ “Express Checkout” ก็คือการซื้อด่วน กดคลิ๊กเดียวไปหน้าชำระเงินได้เลย โดยระบุแค่วิธีการชำระเงินและปลายทางในการจัดส่งสินค้าเท่านั้น สำหรับคนไม่ต้องการรายละเอียดใดๆ ซื้อง่ายจ่ายเร็ว

2.       กดสินค้านั้นแบบหยิบ “ใส่ตระกร้า” เอาไว้ก่อนซึ่งเราอาจจะเลือกซื้อสินค้าอื่นๆ ต่อไปหรือไปชำระเงินก็ได้ ซึ่งแนะนำให้กดซื้อสินค้าด้วยวิธีนี้ เพราะเราจะสามารถตรวจทาน, เพิ่มลดสินค้า และใช้โค๊ดคูปองส่วนลดต่างๆ ได้

6. Tik Tok ♥

ส่วน1เริ่มใช้งาน

1 เปิด TikTok. แตะไอคอนของแอพ TikTok ที่เป็นโน้ตดนตรี แล้วจะเห็นหน้า home ของ TikTok ถ้าล็อกอินไว้แล้ว

2เข้าใจข้อจำกัดของ TikTok. คุณอัดวีดีโอทำ MV ใน TikTok ได้ไม่เกิน 15 วินาที ซึ่งเพลงที่จะใช้ ก็ต้องอยู่ใน library ของ TikTok ด้วย

3แตะ ＋. ท้ายหน้า home ของ TikTok เพื่อเข้าหน้าถ่ายวีดีโอ

4แตะ "Pick a Sound" ด้านบนของหน้าจอ. เพื่อเปิดเมนู Music

5เลือกเพลง. คุณเลือกเพลงได้จาก library ของ TikTok

6เลือกว่าจะให้เพลงเริ่มตรงจุดไหน. ตามค่า default เพลงใน library จะเริ่มตั้งแต่ต้นเพลง แต่คุณเปลี่ยนได้ว่าอยากให้เพลงเริ่มตรงไหน

ส่วน2อัดวีดีโอ

1เล็งกล้องไปยังอะไรที่จะถ่าย. หันกล้องมือถือไปทางใครหรืออะไรที่จะถ่าย

2ถ่ายคลิป. กดปุ่มวงกลมสำหรับอัดวีดีโอท้ายหน้าจอค้างไว้ แล้วค่อยปล่อยตอนถ่ายเสร็จ

3ถ่ายแบบปล่อยมือ. แตะไอคอนจับเวลาทางขวาของหน้าจอ เลือกว่าจะให้หยุดถ่ายเมื่อไหร่ แล้วแตะ "Tap to shoot" กล้องจะนับถอยหลัง 3-2-1 แล้วเริ่มอัดวีดีโอจนถึงจุดของเพลงที่กำหนดไว้ จากนั้นคุณก็ถ่ายต่อแบบไม่ต้องกดปุ่มวงกลมค้างไว้ได้เลย

4ใส่ effects ในวีดีโอ. คุณเพิ่มลูกเล่นในวีดีโอได้

5อัดวีดีโอ 3 - 15 วินาที. วีดีโอต้องยาวอย่างน้อย 3 วินาที แต่ไม่เกิน 15 วินาทีถ้ามีเพลงประกอบ

6ลบ project ถ้าอยากสร้างใหม่แต่ต้น. ถ้าอยากถ่าย MV ใหม่แต่ต้น ก็แค่แตะ X ที่มุมซ้ายบนของหน้าจอ แล้วแตะ Reshoot หรือลบ project ปัจจุบันทั้งหมด โดยแตะ X แล้วแตะ Exit ในเมนู

7ไปที่หน้าจอตัดต่อ. แตะไอคอนติ๊กถูกที่มุมขวาล่างของหน้าจอ เพื่อเซฟวีดีโอ แล้วเปิดในหน้าตัดต่อ

ส่วนที่3ตัดต่อ

1เลือกเพลงอื่นที่จะใส่ในวีดีโอ. ถ้าอยากเปลี่ยนเพลงที่ใช้ ให้แตะไอคอนรูปแผ่นเสียง ด้านขวาบนของหน้าจอ แล้วเลือกเพลงที่จะใช้ในเมนู Music

2ปรับเสียงของวีดีโอ.

3ใส่ฟิลเตอร์. ถ้าอยากเปลี่ยนหน้าตาที่เห็นของทั้งวีดีโอโดยใส่ฟิลเตอร์ ให้แตะวงกลม 3 สี แตะฟิลเตอร์ท้ายหน้าจอ แล้วแตะไอคอนติ๊กถูก

4ใส่ special effects. แตะนาฬิกามุมซ้ายล่าง แล้วใส่ special effects ต่างๆ

5เปลี่ยน thumbnail. แตะรูปข้างนาฬิกา แล้วลาก thumbnail ไปยังตำแหน่งที่ต้องการของวีดีโอ

6โพสต์วีดีโอ. โดยแตะ "Next" สีแดงที่มุมขวาล่างของหน้าจอ เพื่อไปยังหน้า "Share"

7ตั้งชื่อวีดีโอ. แตะช่อง "Title with #tag @friend" แล้วพิมพ์ชื่อวีดีโอ

8แตะ Post. ที่เป็นปุ่มสีแดง มุมขวาล่างของหน้าจอ เพื่อโพสต์วีดีโอใน TikTok

เคล็ดลับ

·         คุณสร้างวีดีโอแบบ “duet” แล้วอัดวีดีโอพร้อมผู้ใช้ TikTok คนอื่นได้ด้วย โดยเข้าหน้าโปรไฟล์ของคนที่คุณ follow และเขา follow คุณ จากนั้นเลือกวีดีโอ แตะไอคอน Share แตะ Duet แล้วทำตามขั้นตอนในหน้าจอ เพื่อเริ่มอัดวีดีโอเป็น segment ต่อจากวีดีโอของเขา

คำเตือน

·         จนกว่าจะแก้ไขและเซฟวีดีโอเสร็จ ระวังอย่ากลับไปหน้าก่อนโดยแตะ X ที่ด้านซ้ายบน หรือโดยออกจากแอพ ไม่งั้นวีดีโอที่อัดและตัดต่อแล้วจะหายไป ถ้าแอพปิดตัวเองหรือแอพล่ม จะมีให้ตัดต่อและ/หรือเซฟ draft ต่อไป

5. 4Shared ♥

4Shared

4shared คือเว็บไซต์ที่ให้บริการรับฝากไฟล์หลากหลายชนิด ที่ให้คุณสามารถใช้งานได้ฟรี หากต้องการความสามารถเพิ่มมากขึ้น หรือพื้นที่ที่มากขึ้น สามารถสมัครใช้บริการแบบ Premium ได้ สำหรับคุณที่ใช้งาน computer มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับการจัดเก็บไฟล์ไว้ในเครื่อง computer ของตนเองแล้วไม่สามารถแบ่งปันให้กับคนอื่นใช้งานได้ หรือแม้กระทั่งการส่งเมลล์ในปัจจุบัน ซึ่งยังมีข้อจำกัดเกี่ยวกับการแนบไฟล์ขนาดใหญ่ ซึ่งไม่สามารถทำได้ ฉะนั้นเว็บไซต์ที่ให้บริการรับฝากไฟล์ ต่อไปนี้ขอเรียกว่าเว็บฝากไฟล์ จึงเป็นทางออกที่จะช่วยให้คุณสามารถ ส่งไฟล์ขนาดใหญ่ให้กับคนที่คุณต้องการจะส่ง โดย Upload File ขึ้นไปบนเว็บไซต์ของ 4shared จากนั้นก็คัดลอก Link ของไฟล์นั้น ส่งไปทางอีเมล ซึ่งผู้รับปลายทางก็จะได้รับ Link ที่เราส่งไป และเมื่อคลิก Link ก็สามารถ Download File นั้น ๆ ได้ เว็บไซต์ 4shared ถือเป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการอย่างคุ้มค่า เพราะคุณสามารถสมัครใช้งานได้ฟรี โดยได้พื้นที่ในการบริหารจัดการไฟล์ถึง 15 Gb นอกจากนี้ยังมีระบบบริหารจัดการไฟล์บนหน้าเว็บที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย

เมื่อเปิด App ขึ้นมาจะพบหน้าต่างที่ใช้สำหรับเข้าสู่ระบบ หากคุณเคยสมัครใช้บริการ 4shared เรียบร้อยแล้ว สามารถคลิกปุ่ม ล็อกอิน เพื่อเข้าสู่ระบบได้ทันที

แต่หากคุณยังไม่เคยสมัครใช้บริการ คุณจำเป็นจะต้องสมัครใช้บริการเสียก่อน โดยคลิกข้อความ เข้าสู่ระบบด้วยบัญชีที่มีอยู่ จะปรากฏแบบฟอร์มสำหรับสมัครใช้บริการ เพียงแค่กรอกชื่อ-นามสกุล Email และ Password เท่านั้นเอง เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนแล้วคลิกปุ่ม สมัคร เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถใช้งาน 4shared ได้แล้ว

4. Facebook ♥

Facebook

วิธีการสมัคร Facebook

1. เปิดเว็บเบราเซอร์ขึ้นมาครับ จะเป็น IE, Chrome หรือ Firefox อะไรก็ได้
2. พิมพ์ www.facebook.com ลงไปในช่อง URL จากนั้นกด Enter 1 ครั้งเพื่อเปิดเว็บ Facebook ขึ้นมา เมื่อเปิดขึ้นมาแล้ว จะได้ภาพตามด้านบน
3. ให้เราข้อมูลของเราลงไปในช่องว่างให้ครบ และถูกต้อง ประกอบไปด้วย ชื่อ-นามสกุล (ควรเป็นชื่อและนามสกุลจริง เพื่อให้เพื่อนของคุณค้นหาเราได้ง่ายขึ้น), อีเมลที่ใช้อยู่ โดยเราต้องใส่ยืนยัน 2 ครั้ง, รหัสผ่านที่เราต้องการใช้, วันเดือนปีเกิด, และเพศ
4. กรอกข้อมูลเสร็จเรียบร้อย แตะปุ่ม สมัครใช้งาน
5. ต่อไประบบจะแนะนำวิธีค้นหาเพื่อนให้คุณ ซึ่งหากเราต้องการค้นหาเอง ก็สามารถแตะที่ “ข้ามขั้นตอนนี้ไป” เพื่อไปขั้นตอนต่อไปได้เลย
6. เมื่อแตะปุ่ม “ข้าม…” แล้ว ระบบจะขึ้นกล่องข้อความเพื่อยืนยันอีกครั้ง ให้เราแตะข้ามอีกครั้ง
7. ใส่ข้อมูลรายละเอียดของคุณให้ครบถ้วน เสร็จเรียบร้อยแล้วคลิ๊กปุ่ม ถัดไป (สามารถคลิ๊กที่ข้าม เพื่อข้ามขั้นตอนนี้ได้)
8. มาถึงขั้นตอนที่ 3 ระบบจะให้เราใส่รูปภาพประจำตัวของเราลงไป หากในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณมีภาพอยู่แล้ว ให้คลิ๊กที่ “เพิ่มรูปภาพ”
9. เมื่อใส่รูปภาพเสร็จเรียบร้อย ให้แตะคลิ๊กที่ “ถัดไป”
10. ขั้นตอนต่อไประบบจะให้เรายืนยันตัวตนของเราในอีเมล ซึ่งระบบจะส่งอีเมลไปให้เราตามอีเมลที่เราใส่ไว้ในขั้นตอนที่ 2 ให้เราคลิ๊กที่ “ยืนยันตอนนี้” ที่ด้านบน
11. จากนั้นคลิ๊ก “ยอมรับ” เพื่อยืนยัน
12. การยืนยันการสมัคร Facebook เสร็จเรียบร้อย

3. Messenger ♥

Messenger

วัตถุประสงค์พื้นฐานของ app นี้คือการ ส่งข้อความจากโทรศัพท์ Android ของคุณ ก็ง่าย ๆ จะมีเพียงไม่กี่ขั้นตอนง่าย ๆ ในการเขียนข้อความ และส่งไปยังติดต่อที่กำหนด อย่างไรก็ตาม ก่อนที่คุณทำ คุณต้องแน่ใจคุณมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และมีซิงค์ผู้ติดต่อของคุณกับ Facebook แล้ว

1.เปิด Facebook messenger ตอนนี้ มีสองวิธีที่คุณสามารถส่งข้อความ แรก คือการ เคาะบนติดต่อเอง และเข้าสู่หน้าจอสนทนา หรือใช้ปุ่มข้อความใหม่ ที่สอง คือเพิ่มความสะดวกสบายคุณสามารถค้นหาผู้ติดต่อได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นไปที่หน้าจอด้านบนขวา และแตะข้อความใหม่

2.ในหน้าจอถัดไป คุณสามารถค้นหาบุคคลที่คุณต้องการส่งข้อความ คุณสามารถเลือกผู้ติดต่อหลายรายจากรายการ

3.เมื่อมีเลือกผู้ติดต่อ คุณสามารถตอนนี้ป้อนข้อความที่ด้านล่าง นอกจากนี้ คุณสามารถเพิ่มรอยยิ้ม แฟ้มสื่ออื่น ๆ ได้

วิธีนี้ จะเห็นการสนทนาของคุณ โดยผู้ติดต่อของคุณทั้งหมด ถ้าคุณต้องการเก็บการสนทนาส่วนตัว และต้องการส่ง ทำตามวิธีดังกล่าวข้างต้นประกอบด้วยข้อความ และเลือกผู้ติดต่อทั้งหมดโดยส่งข้อความ อย่างไรก็ตาม Facebook ช่วยให้คุณสามารถส่งข้อความหนึ่งเพื่อจำกัดจำนวนของผู้ใช้ดังนั้นคุณอาจจะต้องเขียนส่งให้เพื่อน Facebook ของคุณบางครั้ง 

2. Line ♥

Line

การเริ่มต้นใช้งานครั้งแรก

การสมัคร ID ของ LINE จะเป็นการสมัครด้วยเบอร์โทรจากซิมการ์ดเป็นหลัก ซึ่งเมื่อสมัครแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนเบอร์โทรได้อีก (หากเปลี่ยนเบอร์ก็เท่ากับต้องสมัคร ID ใหม่ด้วย)

1. ดาวน์โหลด และติดตั้งแอพฯ LINE ลงบนอุปกรณ์สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต

2. เปิดแอพฯ LINE จะพบหน้าจอสำหรับสมัคร ID เพื่อใช้งาน ให้เลือก New Users

3. จะพบหน้าจอให้เลือกประเทศ (แอพฯ จะเลือกประเทศไทยให้เราอัตโนมัติ) และกรอกเบอร์โทรศัพท์ของเราลงในช่องล่าง จากนั้นแตะปุ่ม Agree with Terms and Verify

4. จะมีให้เลือกว่าต้องการให้ใช้ข้อมูลเบอร์โทรใน Contacts ของเครื่องเพื่อค้นหาเพื่อนที่ใช้ LINE หรือไม่ และอนุญาตให้คนอื่นแอดเราจากเบอร์โทรได้หรือไม่ จากนั้นให้เลือก OK

5. LINE จะส่งหมายเลขสำหรับยันยันการสมัครทาง SMS โดยเมื่อ SMS ถูกส่งเข้ามาแล้วระบบจะใส่ตัวเลขให้อัตโนมัติ จากนั้นให้เลือก Next

6. ให้กรอกชื่อที่เราต้องการให้แสดงใน LINE (สามารถเปลี่ยนชื่อใหม่เมื่อไหร่ก็ได้)

7. ระบบจะให้เราลงทะเบียนด้วยอีเมล โดยหากยังไม่ต้องการลงทะเบียนตอนนี้ สามารถ Register later เพื่อเอาไว้ลงทะเบียนทีหลังได้ (ดูวิธีลงทะเบียนด้วยอีเมลได้ในหัวข้อถัดไป)

8. เพียงเท่านี้ก็เริ่มใช้งาน LINE ได้แล้ว

การลงทะเบียนด้วยอีเมล

การลงทะเบียนอีเมลนั้นจะทำให้เราสามารถนำ ID ของ LINE ที่ได้ลงทะเบียนไว้ไปใช้บนอุปกรณ์อื่น ๆ รวมทั้งคอมพิวเตอร์ได้ (สามารถเปลี่ยนอีเมลได้เมื่อไหร่ก็ได้)

1. เลือกแท็บ More

2. เลือก Settings

3. เลือกหัวข้อ Email Registration

4. กรอกอีเมลกับรหัสผ่านลงไป แล้วกด Register

1. Shopee ♥

“Shopee” เป็นบริษัทในเครือของ Garena ผู้ให้บริการเกมส์ออนไลน์จากประเทศสิงค์โปร ที่แตกไลน์มาทำแพลต์ฟอร์มซื้อ-ขายสินค้าออนไลน์รูปแบบโซเชียล (Social Commerce) มีรูปแบบการทำตลาดแบบผู้บริโภคขายสินค้าระหว่างกันเอง (C2C) ต่างจากแพลต์ฟอร์มรายอื่นที่จะเป็นธุรกิจขายให้ผู้บริโภค (ฺB2C)

จุดเด่นของแพลตฟอร์มนี้คือสะดวกรวดเร็วมีความเป็นโซเชียลคล้ายกับ Instagram คือตัวลูกค้าสามารถกดติดตามร้านหรือกดถูกใจสินค้าได้,มีระบบแฮชแท็ก รวมถึงระบบแชทติดต่อกับคนขายโดยตรง  ส่วนคนขายก็ลงสินค้าใหม่ได้ง่าย มีโปรโมชั่นและกิจกรรมจาก Shopee มาให้ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เหมาะสำหรับพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ หรือร้านเล็กๆที่อยากจะสร้างฐานลูกค้าของตัวเอง

สามารถเลือกใช้ เบอร์โทรศัพท์ , Email หรือ Facebook ในการลงทะเบียนได้เลย จากนั้นก็กรอก Username และ Password ที่จะใช้ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

ภายในแอพฯจะมีหน้าหลักๆอยู่ 4 หน้าประกอบด้วย

 ซื้อ : พื้นที่แสดงแบนเนอร์โปรโมชั่นต่างๆจาก Shopee , หมวดหมู่ของสินค้าที่มีอยู่บนแฟลตฟอร์มทั้งหมด และรายการสินค้าแนะนำประจำวัน

สำรวจ : สำหรับสำรวจหาร้านค้า รวมถึงร้านที่ทาง Shopee แนะนำ และร้านที่เราอาจจะชอบซึ่งการแสดงผลจะอ้างอิงจากพฤติกรรมการใช้งานของเรา

การแจ้งเตือน : แสดงการแจ้งเตือนต่างๆไม่ว่าจะเป็น โปรโมชั่นใหม่ๆ หรือการอัพเดตกิจกรรมที่เราทำไว้

ฉัน : พื้นที่โปรไฟล์แสดงข้อมูลส่วนตัวของผู่ใช้ และส่วนจัดการร้านค้าสำหรับคนที่ลงขายของเอาไว้

เมื่ออยากจะซื้อสินค้า ให้พิมพ์ค้นหาสินค้าที่อยากได้ในช่องค้นหา โดยระบบการค้นหาของShopee มีตัวกรอง หลากหลายแบบให้เลือกตามความต้องการตั้งแต่กำหนดเรทราคา, ดูสินค้าใช้แล้ว หรือสินค้าใหม่, มีส่วนลด หรือค่าจัดส่งฟรี และสามารถเลือกดูเฉพาะร้านที่อยู่ใกล้กับเราได้อีกด้วย 

ในหน้าแสดงสินค้าก็จะมีรายละเอียดที่จำเป็นต่างๆ ทั้งรูปภาพ,ราคา,จำนวนของในสต็อก,ข้อมูลการจัดส่ง และอีกสารพัด หรือถ้าหากยังมีข้อสงสัย อยากต่อรองราคาก็กดแชทคุยกับคนขายได้เลย

เมื่อโอเคกับสินค้าแล้วก็กด ซื้อสินค้า หรือ เพิ่มไปยังรถเข็น แล้วแอพจะขึ้นให้เลือก "ตัวเลือกสินค้า" ที่ทางร้านกำหนดให้ และจำนวนสินค้าที่เราจะซื้อ หลังจากนั้นกด ชำระเงิน แอพฯจะขึ้นให้ใส่ที่อยู่, ตัวเลือกการจัดส่ง พร้อมช่องระบุสีหรือไซส์ของสินค้า หรือข้อความถึงผู้ขาย ช่องทางชำระเงินเป็นได้ทั้งบัตรเครดิต และโอนผ่านธนาคาร จากนั้นกด ยืนยัน

  ระบบการันตี คนซื้อได้ของ คนขายได้เงิน

Shopee ได้ออกแบบระบบ “Shopee Guarantee” สร้างความมั่นใจให้กับคนซื้อคนขายในกรณีที่เลือกชำระเงินผ่านบัญชีของผู้ให้บริการ ส่วนรูปแบบการทำงานจะเป็นในลักษณะนี้

• Shopee จะเก็บเงินที่ชำระค่าสินค้าที่ซื้อจากผู้ขาย ไว้ในบัญชีที่แยกออกจากเงินทุนของบริษัท และจะไม่นำเงินส่วนนี้ไปใช้กับเรื่องอื่นอย่างเด็ดขาด
• เงินในบัญชีจะถึงมือผู้ขายได้ก็ต่อเมื่อ ผู้ซื้อส่งคำยืนยันไปยัง Shopee ว่าได้รับสินค้าของตัวเองแล้ว หรือสิ้นสุดระยะเวลาการันตีที่จะคำนวนโดยใช้ ระยะเวลาเตรียมพัสดุที่คนขายเป็นผู้กำหนด + จำนวนวันที่ใช้ในการส่งสินค้า คิดคราวๆจะอยู่ที่ราว 5-7 วัน
• ทางฝั่งคนซื้อมีสิทธิในการขอเงินคืนจากบัญชีตัวนี้ได้หากผู้ขายไม่ส่งสินค้าให้ แต่ทั้งหมดจะต้องดำเนินการในช่วงระยะเวลาการันตี และทางคนขายจะมีเวลา 5 วันในการตอบรับหรือปฏิเสธการคืนเงิน
• คนซื้อสามารถขอยืดเวลาการันตีได้สูงสุด 3 วัน แต่จำกัดเพียง 1 ครั้งเท่านั้น
• ระบบตัวนี้ไม่ครอบคลุมการดำเนินการระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายแบบออฟไลน์